เจ้าฟ้าเจ้านางแห่งนครเชียงตุง
เจ้าฟ้าเจ้านางแห่งนครเชียงตุง
บันทึกแห่งล้านนา ตอน เจ้าฟ้าเจ้านางแห่งนครเชียงตุง ในงานที่ยิ่งใหญ่ในยุคอาณานิคม
...หนึ่งในงานสำคัญที่สุดในสมัยนั้น คือ การประชุมใหญ่ที่เมืองเดลี จักรวรรดิอินเดีย ของเหล่าผู้ปกครองในเอเชียกับบุคคลสำคัญของอังกฤษ
.. ครั้งนั้นภายในงาน ได้มีเจ้านางท่านหนึ่งปรากฏกาย ด้วยผ้าโพกหัว ใส่เสื้อนุ่งซิ่นแบบแม่หญิงเชียงตุง พร้อมด้วยเครื่องประดับ นั่งถ่ายภาพเคียงภริยาของท่านเซอร์ จรอจ์ สก๊อต
.. ท่านผู้นั้นก็คือ เจ้านางขันคำแห่งหอเจียงจันทร์ พระขนิฐาแห่งเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง
.. เจ้านางจึงเป็นท่านแรก ที่นำซิ่นไหมคำลายบัวของราชสำนักเชียงตุง ไปนุ่งห่มอวดต่อสายตาชาวโลก
...เจ้านางขันคำทรงเป็นพระขนิฐาของเจ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง เจ้าฟ้าหอคำในขณะนั้น ท่านพำนักอยู่ที่หอเจียงจันทร์กับเจ้าแม่ในเวียงเชียงตุง
.. หอเจียงจันทร์แห่งนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญ เป็นที่ประสูติของเจ้าฟ้าเจ้านางในยุคนั้น เรียกได้ว่านางฟ้าองค์ไหนตั้งครรภ์ต้องมาพำนักที่นี่ เพื่อจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพระมารดาของเจ้าฟ้า
...ทำไมการประชุมที่เดลีจึงสำคัญ เพราะความกว้างใหญ่และอำนาจที่มีมากมายมหาศาล
... ในยุคนั้นดินแดนแห่งอำนาจของสหราชอาณาจักรในเอเชียมี 2 ประเภท
.. 1.จักรวรรดิอินเดียของบริเตน British Indian Empire เป็นดินแดนที่บริหารโดยตรงจากอังกฤษ
.. 2.รัฐของเจ้าครองนครต่างๆที่มีประมุขปกครอง แต่อยู่ภายใต้อำนาจปกครองสูงสุดของรัฐบาลอังกฤษ
.. โดยรัฐประเภทที่สอง จะทำสนธิสัญญากับรัฐบาลอังกฤษ มีเนื้อหาคือ ยังคงรักษาสิทธิในการการปกครองตนเอง แต่อยู่ในฐานะรัฐอารักขา คือ ให้อังกฤษจัดการงานด้านต่างประเทศแทนตน
...ดินแดนในอำนาจอังกฤษประเภทแรก คือ จักรวรรดิอินเดียของบริเตน ประกอบไปด้วยดินแดนที่เป็นประเทศอินเดีย ปากีสถานและบังกลาเทศในปัจจุบัน
..แล้วยังมีเมืองเอเดน ในพ.ศ. 2382 - 2480
..มีพม่าตอนบน ในพ.ศ. 2401 - พ.ศ. 2480
..มีพม่าตอนล่าง ในพ.ศ. 2429 - 2480 พม่าเดิมถูกผนวกเป็นจังหวัดหนึ่งของอินเดีย ต่อมาแยกจากอินเดียของบริเตนในปี พ.ศ. 2480
..มีโซมาซิแลนด์ ช่วงสั้นๆ ตั้งแต่ พ.ศ. 2427 ถึง พ.ศ. 2441
..มีสิงคโปร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2401 ถึง พ.ศ. 2410
...นอกจากนี้ อินเดียของบริเตนยังมีอิทธิพลเหนือดินแดนในปกครองอังกฤษแถบตะวันออกกลาง ทำให้เงินตรารูปีอินเดียใช้กันอย่างแพร่หลายตามพื้นที่ต่างๆของภูมิภาคนี้
... ประเทศอิรักในปัจจุบันเคยปกครองโดยกระทรวงอินเดียของรัฐบาลอังกฤษ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1อีกด้วย
...นอกจากนี้จักรวรรดิอินเดีย ยังได้ออกหนังสือเดินทางของตนเองโดยใช้ชื่อว่า อินเดีย เพื่อแสดงฐานะทั้งในภูมิภาคและระดับนานาชาติ
.. บทบาทที่มากมายนี้จักรวรรดิ์อินเดียอันทรงอิทธิพ, จึงได้เป็นสมาชิกก่อตั้งสภาสันนิบาติชาติและเป็นชาติสมาชิกในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2443 2463 2471 2475 และ 2479
...บรรดาประเทศของดินแดนแถบนี้ บริติชซีลอนปัจจุบันคือ ศรีลังกา ตกเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2335 ภายใต้สนธิสัญญาอาเมียงส์ มีฐานะเป็นอาณานิคม Crown Colonyหรืออาณานิคมที่ปกครองโดยตรงจากรัฐบาลอังกฤษ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในอินเดียของบริเตน
.. สำหรับดินแดนในอำนาจของสหราชประเภทที่สองได้แก่ ราชอาณาจักรเนปาลและภูฏาน แม้จะมีความขัดแย้งกับอังกฤษ แต่ก็ยอมรับตนเองว่าต้องอยู่ในฐานะรัฐอิสระกึ่งอิสระ
.. ส่วนราชอาณาจักรสิกขิม ก็ได้รับการตั้งให้เป็นรัฐเจ้าครองนคร หลังการลงนามในสนธิสัญญาอังกฤษ-สิกขิมในปี พ.ศ. 2405
...หมู่เกาะมัลดีฟส์ก็เป็นรัฐในอารักขาของบริเตนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2410 ถึงปี พ.ศ. 2508
...ส่วนดินแดนทางด้านตะวันออก ของลุ่มน้ำสาละวิน อย่างนครเชียงตุง ก็อยู่ในฐานะเป็นรัฐในอารักขา มีอำนาจปกครองตนเองในลักษณะกึ่งอิสระ เช่นเดียวกับนครรัฐอื่นๆครับ
บริษัท เชียงรายมีเดีย แอนด์ ทราเวล จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 21/00833
โทร : 092-891-2277,093-2537733,053-727255
ไลน์ไอดี : @chiangtung
เว๊ปไซค์ : Chiangtungbiz.com
youtube:http://bit.ly/2HDFdMO
บันทึกแห่งล้านนา ตอน เจ้าฟ้าเจ้านางแห่งนครเชียงตุง ในงานที่ยิ่งใหญ่ในยุคอาณานิคม
...หนึ่งในงานสำคัญที่สุดในสมัยนั้น คือ การประชุมใหญ่ที่เมืองเดลี จักรวรรดิอินเดีย ของเหล่าผู้ปกครองในเอเชียกับบุคคลสำคัญของอังกฤษ
.. ครั้งนั้นภายในงาน ได้มีเจ้านางท่านหนึ่งปรากฏกาย ด้วยผ้าโพกหัว ใส่เสื้อนุ่งซิ่นแบบแม่หญิงเชียงตุง พร้อมด้วยเครื่องประดับ นั่งถ่ายภาพเคียงภริยาของท่านเซอร์ จรอจ์ สก๊อต
.. ท่านผู้นั้นก็คือ เจ้านางขันคำแห่งหอเจียงจันทร์ พระขนิฐาแห่งเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง
.. เจ้านางจึงเป็นท่านแรก ที่นำซิ่นไหมคำลายบัวของราชสำนักเชียงตุง ไปนุ่งห่มอวดต่อสายตาชาวโลก
...เจ้านางขันคำทรงเป็นพระขนิฐาของเจ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง เจ้าฟ้าหอคำในขณะนั้น ท่านพำนักอยู่ที่หอเจียงจันทร์กับเจ้าแม่ในเวียงเชียงตุง
.. หอเจียงจันทร์แห่งนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญ เป็นที่ประสูติของเจ้าฟ้าเจ้านางในยุคนั้น เรียกได้ว่านางฟ้าองค์ไหนตั้งครรภ์ต้องมาพำนักที่นี่ เพื่อจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากพระมารดาของเจ้าฟ้า
...ทำไมการประชุมที่เดลีจึงสำคัญ เพราะความกว้างใหญ่และอำนาจที่มีมากมายมหาศาล
... ในยุคนั้นดินแดนแห่งอำนาจของสหราชอาณาจักรในเอเชียมี 2 ประเภท
.. 1.จักรวรรดิอินเดียของบริเตน British Indian Empire เป็นดินแดนที่บริหารโดยตรงจากอังกฤษ
.. 2.รัฐของเจ้าครองนครต่างๆที่มีประมุขปกครอง แต่อยู่ภายใต้อำนาจปกครองสูงสุดของรัฐบาลอังกฤษ
.. โดยรัฐประเภทที่สอง จะทำสนธิสัญญากับรัฐบาลอังกฤษ มีเนื้อหาคือ ยังคงรักษาสิทธิในการการปกครองตนเอง แต่อยู่ในฐานะรัฐอารักขา คือ ให้อังกฤษจัดการงานด้านต่างประเทศแทนตน
...ดินแดนในอำนาจอังกฤษประเภทแรก คือ จักรวรรดิอินเดียของบริเตน ประกอบไปด้วยดินแดนที่เป็นประเทศอินเดีย ปากีสถานและบังกลาเทศในปัจจุบัน
..แล้วยังมีเมืองเอเดน ในพ.ศ. 2382 - 2480
..มีพม่าตอนบน ในพ.ศ. 2401 - พ.ศ. 2480
..มีพม่าตอนล่าง ในพ.ศ. 2429 - 2480 พม่าเดิมถูกผนวกเป็นจังหวัดหนึ่งของอินเดีย ต่อมาแยกจากอินเดียของบริเตนในปี พ.ศ. 2480
..มีโซมาซิแลนด์ ช่วงสั้นๆ ตั้งแต่ พ.ศ. 2427 ถึง พ.ศ. 2441
..มีสิงคโปร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2401 ถึง พ.ศ. 2410
...นอกจากนี้ อินเดียของบริเตนยังมีอิทธิพลเหนือดินแดนในปกครองอังกฤษแถบตะวันออกกลาง ทำให้เงินตรารูปีอินเดียใช้กันอย่างแพร่หลายตามพื้นที่ต่างๆของภูมิภาคนี้
... ประเทศอิรักในปัจจุบันเคยปกครองโดยกระทรวงอินเดียของรัฐบาลอังกฤษ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1อีกด้วย
...นอกจากนี้จักรวรรดิอินเดีย ยังได้ออกหนังสือเดินทางของตนเองโดยใช้ชื่อว่า อินเดีย เพื่อแสดงฐานะทั้งในภูมิภาคและระดับนานาชาติ
.. บทบาทที่มากมายนี้จักรวรรดิ์อินเดียอันทรงอิทธิพ, จึงได้เป็นสมาชิกก่อตั้งสภาสันนิบาติชาติและเป็นชาติสมาชิกในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2443 2463 2471 2475 และ 2479
...บรรดาประเทศของดินแดนแถบนี้ บริติชซีลอนปัจจุบันคือ ศรีลังกา ตกเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2335 ภายใต้สนธิสัญญาอาเมียงส์ มีฐานะเป็นอาณานิคม Crown Colonyหรืออาณานิคมที่ปกครองโดยตรงจากรัฐบาลอังกฤษ แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในอินเดียของบริเตน
.. สำหรับดินแดนในอำนาจของสหราชประเภทที่สองได้แก่ ราชอาณาจักรเนปาลและภูฏาน แม้จะมีความขัดแย้งกับอังกฤษ แต่ก็ยอมรับตนเองว่าต้องอยู่ในฐานะรัฐอิสระกึ่งอิสระ
.. ส่วนราชอาณาจักรสิกขิม ก็ได้รับการตั้งให้เป็นรัฐเจ้าครองนคร หลังการลงนามในสนธิสัญญาอังกฤษ-สิกขิมในปี พ.ศ. 2405
...หมู่เกาะมัลดีฟส์ก็เป็นรัฐในอารักขาของบริเตนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2410 ถึงปี พ.ศ. 2508
...ส่วนดินแดนทางด้านตะวันออก ของลุ่มน้ำสาละวิน อย่างนครเชียงตุง ก็อยู่ในฐานะเป็นรัฐในอารักขา มีอำนาจปกครองตนเองในลักษณะกึ่งอิสระ เช่นเดียวกับนครรัฐอื่นๆครับ
***********************
บริการจัดทัวร์
ทัวร์เชียงตุง ทัวร์เมืองยอง ทัวร์สิบสองปันนา ทัวร์คุนหมิงจีน ทัวร์หลวงพระบาง ทัวร์วังเวียงลาว ทัวร์มัณฑเลย์ ทัวร์พุกาม ทัวร์ทะเลสาบอินเล ทัวร์ตองจี ทัวร์รัฐฉาน
ทัวร์เชียงตุง ทัวร์เมืองยอง ทัวร์สิบสองปันนา ทัวร์คุนหมิงจีน ทัวร์หลวงพระบาง ทัวร์วังเวียงลาว ทัวร์มัณฑเลย์ ทัวร์พุกาม ทัวร์ทะเลสาบอินเล ทัวร์ตองจี ทัวร์รัฐฉาน
บริษัท เชียงรายมีเดีย แอนด์ ทราเวล จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 21/00833
โทร : 092-891-2277,093-2537733,053-727255
ไลน์ไอดี : @chiangtung
เว๊ปไซค์ : Chiangtungbiz.com
youtube:http://bit.ly/2HDFdMO
บทความที่คุณอาจสนใจ
-เรียนรู้ประวัติศาสตร์ "คนเมือง" ในเวียงเชียงใหม่
อะไรคือสุดยอดของขลังที่ท่านขุนพันธ์ใช้สยบไสยดำ ของ อะแวสะดอ ตาและ ขุนโจรชาวมุสลิม ซึ่งเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ มนต์ดำ ผู้มีสันดานโจน ใจคอโหดร้ายจนไม่มีผู้ใด กล้าแตะต้องไปหาคำตอบกับพวกเราทีมงานลักยิ้มได้เลยครับ
-“ถ้ามาคุนหมิงแล้วไม่ได้ไปเที่ยวป่าหิน ก็เหมือนมาไม่ถึงคุนหมิง”