LC112 หนองเขียว-วังเวียง-หลวงพระบาง4วัน3คืน

ทัวร์รถไฟลาว


yesวันที่หนึ่ง เที่ยวเวียงจัน ตะลุยวังเวียง

enlightenedเช้า  คณะพร้อมกันที่อาคารผู้โดยสารสนามบินดอนเมืองก่อนเวลาบิน1ชั่วโมง พบกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอินและโหลดกระเป๋า  เมื่อได้เวลาเข้าสู่เกท เตรียมเดินทางบินสู่จังหวัดอุดรธานี ใช้ระยะเวลาประมาณ60นาที
      
ถึงสนามบินอุดรธานีcool ทีมงานสตาฟของบริษัทรอต้อนรับที่ประตูทางออก นำท่านำไปยังรถตู้แจกอาหารว่างบนรถตู้ แล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่จังหวัดหนองคาย จากนั้นนำท่านตรวจเช็คเอกสารทำการข้ามด่านสะพานมิตรภาพไทยลาว เมื่อข้ามแม่น้ำโขงและผ่านการตรวจเอกสารเข้าประเทศลาวเรียบร้อยแล้ว พาท่านเดินทางต่อเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์
      
เช็คอินใจกลางเมืองheart ชมความงามของประตูชัย สัญลักษณ์ของนครหลวงเวียงจัน สัมผัสความงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะลาวกับฝรั่งเศส ท่านสามารถหามุมถ่ายรูปได้ทั้งทางด้านหน้า ทางด้านภายในซุ้มประตู นอกจากนี้ท่านยังสามารถขึ้นไปชั้นบนของประตูเพื่อชมวิวและเก็บภาพมุมสูงได้ด้วยครับ

enlightenedเที่ยง ทานอาหารที่ร้านเวียงแหนมเนือง(มื้อที่1)ร้านอาหารท้องถิ่นยอดนิยมในมื้อกลางวันของคนเวียงจัน เมนูจุ่มปลาจุ่มแม่น้ำโขง จุ่มหมูน้ำมะพร้าว แหนมเนือง กะยอทอดรสชาติต้นตำหรับกับผักปลอดสารพิษ

 
เข้าสักการะพระธาตุหลวงที่มีตำนานว่าcool หลังจากสร้างพระธาตุพนมพระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ ผู้ครองเวียงจันได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองราชคฤห์ไว้ที่นี่ ทางด้านหน้าของพระธาตุหลวง ก็ยังมีบ่อพญานาค สถานที่ที่เชื่อว่าเป็นประตูสู่เมืองบาดาล ที่ว่ากันว่ามีทั้งหมด 3 แห่ง คือ ที่คำชะโนด ที่พระธาตุดำและที่พระธาตุหลวง
       
enlightenedบ่าย นั่งรถตู้นำท่านเดินทางจากนครหลวงเวียงจันโดยเส้นทางด่วนลาว-จีน เข้าสู่เมืองวังเวียง ตลอดระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ท่านจะได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางที่เต็มไปด้วยป่าไม้ หมู่บ้านท้องถิ่นและภูเขาหินปูน ทางด่วนสายนี้เพิ่งตัดใหม่ ไม่ต้องขึ้นเขา ใช้เส้นทางลอดอุโมงค์แทนเส้นทางเดิม สะดวกมากครับ
      
เมื่อถึงเมืองวังเวียง พาท่านข้ามฝั่งแม่น้ำซองไปเที่ยวบลูลากูน2 สระน้ำใสสะอาดสีเขียวเทอร์คอยส์ที่อยู่ริมหน้าผา เลือกมุมที่ใช่ เก็บภาพสวยๆได้ตามความชอบเลยครับ มีทั้งลำธาร สะพานไม้ฝึกทรงตัว มุมกระโดดน้ำ มุมพักผ่อนริมสระ มุมถ่อแพกลางน้ำ ที่นี่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยพลุกพล่าน ยังเป็นธรรมชาติอยู่มากๆ
        
enlightenedเย็น ไปที่สะพานสีฟ้าที่เที่ยวแห่งใหม่ ที่นี่มีกิจกรรมทั้งที่เล่นน้ำ มีมุมสวยๆให้ถ่ายภาพ มีกิจกรรมลอดห่วงยางที่ถ้ำนอน มีถ้ำนางฟ้า ถ้ำหินปูนที่สวยงามอากาศเย็นสบาย จากนั้นนำท่านล่องเรือหางยาวชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำซอง
      
ค่ำ  เข้าที่พักPm HotelหรือThavisouk RiverSide หรือเทียบเท่า ทานอาหารที่ดาดฟ้าโรงแรมพิมเมืองหรือร้านพูอ่างคำ (มื้อที่2) เดินเล่นต่อที่ถนนคนเดิน จากนั้นนำท่านกลับพักผ่อน ท่านที่จะตะลุยราตรี มีร้านแนะนำ เช่น ซากุระบาร์
 
วันที่สอง เที่ยววังเวียง-หลวงพระบาง เปิดประสบการณ์นั่งรถไฟชมธรรมชาติเมืองลาว

เช้า อรุณสวัสดิ์รับวันใหม่ ชมธรรมชาติยามเช้าของวังเวียง ที่มีภูเขาหินปูนอยู่ล้อมรอบ ทานอาหารเช้าที่โรงแรม(มื้อที่3)
               
เก็บสัมภาระนำท่านเดินทางไปยังสถานีรถไฟวังเวียง สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับรถไฟสายแรกที่เชื่อมจีนกับอาเซี่ยน มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองมรดกโลก ท่านจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ผ่านอุโมงค์ข้ามแม่น้ำ ผ่านหมู่บ้านชมทุ่งนาป่าเขาที่สวยงามได้อย่างเต็มอิ่ม ถ่ายรูปเก็บความประทับใจได้ตลอดระยะเวลาประมาณ60นาที
      
เมื่อถึงหลวงพระบาง นำท่านไปเที่ยวต่อที่น้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่สวยในหลวงพระบาง น้ำของที่นี่ใสแจ๋วสีเขียวมรกต มีป่าไม้ร่มรื่นปกคลุม จุดชมวิวต่างๆ มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ตำนานของน้ำตกเล่าว่า มีเทวดาผู้มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ได้ใช้เขาของกวางขุดลงไปในพื้นดินจนน้ำผุดขึ้นมา เกิดเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ต่อมาได้มีกวางทองหนุ่มมากินน้ำ และเห็นเป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์ จึงเข้าไปอาศัยอยู่โพรงถ้ำบริเวณหน้าผาติด เมื่อชาวบ้านมาพบเห็นน้ำตกที่เกิดขึ้นใหม่และมีกวางทองมาอาศัย เรียกบริเวณนี้ว่า กวางสี หมายถึง กวางหนุ่มที่เขาเพิ่งเริ่มงอก
      
เที่ยง  ทานอาหารเที่ยงที่ตาดร่มไม้(มื้อที่4) ร้านอาหารริมน้ำตก จากนั้นพาท่านไปนั่งเล่นจิบกาแฟที่สวนพูนสุข รีสอร์ทที่
อยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดที่สวยงาม ชมวิวทุ่งนา ที่มีสะพานไม้ มีสวนดอกไม้ให้ท่านได้เดินหามุมถ่ายภาพ
        
บ่าย  พาท่านเข้าเมืองหลวงพระบาง ชมอาคารบ้านเรือนเก่าๆของเมืองมรดกโลก ชอบจุดไหนบอกไกด์ให้จอดรถได้ครับ หรือถ้าหากมีท่านไหนสนใจอยากใส่ชุดพื้นเมืองเที่ยว ไกด์จะพาท่านแวะร้านผ้าซิ่น แล้วค่อยเข้าเช็คอินที่โรงแรม Maison Souvannaphoum HotelหรือโรงแรมTreasure Hotel Laos หรือเทียบเท่า
        
จากนั้นพาท่านเข้าชมพระราชวังเจ้ามหาชีวิตแห่งอาณาจักรล้านช้าง ชมเครื่องราชบรรณาการที่ชาวต่างต่างชาตินำมาถวายพระมหากษัตริย์ในสมัยก่อน ต่อด้วยเก็บตกตลาดเช้า ซื้อของฝากของที่ระลึกกลับเมืองไทย  
      
นำท่านเข้าชมวัดเชียงทอง วัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง วัดแห่งนี้ในสมัยก่อนมีฐานะเป็นวัดประตูเมือง เพราะตั้งอยู่ใกล้ท่าเทียบเรือซึ่งเป็นที่ขึ้นลงเรือของขุนนาง เชื้อพระวงศ์ เจ้ามหาชีวิต รวมถึงชาวต่างชาติ ชมความงดงามของสิมหรืออุโบสถแห่งวัดเชียงทองที่ทั่วโลกยกย่องให้เป็นเพชรยอดมงกุฎแห่งล้านช้าง เอกลักษณ์ที่ภาคภูมิใจของชาวหลวงพระบาง พาท่านเข้าชมลายคำที่วิจิตรบรรจง แต่ละภาพเล่าเรื่องพุทธประวัติและตำนานโบราณของเมืองหลวงพระบาง
        
จากนั้นเดินไปด้านหลัง ชมโรงเก็บราชรถไม้แกะสลักปิดทองของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระมหากษัตริย์ของเมืองหลวงพระบางแห่งอาณาจักรล้านช้าง ที่ยังคงเหลือให้ชมเพียงแห่งเดียว

เย็น พาท่านขึ้นชมภูสี ภูสีหรือภูเขาของพระฤษี เดิมชื่อว่า ภูสรวง เมื่อมีฤษีมาอาศัยอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกว่าภูสี สมัยก่อนที่นี่เป็นที่ใช้ในการย่ำกลองบอกโมงยาม โดยจะตีกลองทุก1ชั่วโมงจากหอกลองหรือจะตีเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม มีข้าศึกศัตรูเข้ามาบุกรุก ข้างบนนี้ท่านจะมองเห็นน้ำโขงที่ทอดสุดยาวสายตา เห็นแม่น้ำคานที่ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนเก่าๆ กล่าวกันว่า ถ้ามาแล้วไม่ได้ขึ้นพูสี เท่ากับว่ามาไม่ถึงหลวงพระบาง
        
พาท่านไปทานอาหารค่ำ พร้อมชมรำวงย้อนยุค ร่วมเต้นบาสโลปที่ร้านกอไผ่ (มื้อที่5)ร้านอาหารท้องถิ่น ที่มีการแสดงน่ารักๆของพนักงานต้อนรับ ให้ทุกท่านอิ่มอร่อยพร้อมกับใกล้ชิดกับเมืองหลวงพระบางมากขึ้นครับ
      
จากนั้นพาท่านไปเดินเที่ยวถนนคนเดินชมพร้อมช๊อปปิ้งที่ตลาดมืด ตลาดมืดแบ่งง่ายๆเป็น3โซนครับ โซนที่หนึ่ง ถนนคนเดิน เริ่มต้นที่สี่แยกที่มีร้านกาแฟอเมซอน สิ้นสุดที่สามแยกหมู่บ้านเจ๊ก สินค้าที่มาขายก็เป็นจำพวกของฝากของที่ระลึกแบบแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ส่วนโซนที่สอง คือ ตลาดชนเผ่า ที่จะมีร้านอาหารสไตล์สตรีทฟู้ต เวทีการแสดงดนตรีและโต๊ะนั่งทานอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว และโซนที่สาม คือ ซอยอาหารพื้นเมืองที่เป็นตรอกเล็กๆ ตรงกันข้ามตลาดชนเผ่า ที่นี่มีอาหารพื้นเมืองราคาถูก ขายทั้งแบบใส่ถุงกลับบ้าน และสำหรับนั่งกิน เมื่อสมควรแก่เวลาแล้ว นำท่านกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม
       
วันที่สาม เที่ยวหลวงพระบาง สโลไลฟ์กับเมืองมรดกโลก ไปต่อที่หนองเขียว

เช้า  รับแสงของวันใหม่ นำท่านร่วมใส่บาตร กิจกรรมที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาที่นี่ การตักบาตรข้าวเหนียวในตอนเช้าที่หลวงพระบาง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยังคงสืบทอดต่อเนื่องกันมายาวนาน โดยการตักบาตรข้าวเหนียวนั้น ชาวบ้านจะฟังเสียงกลองจากทางวัด เป็นสัญญาณบอกเพื่อให้เตรียมตัวปูเสื่อรอริมทางเดิน ที่พระท่านจะบิณฑบาต สำหรับการแต่งกายผู้หญิงจะนุ่งผ้าซิ่น มีผ้าเบี่ยงหรือผ้าสไบพาดไหล่ ผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและมีผ้าพาดเช่นกัน
      
จากนั้นเดินเที่ยวตลาดเช้าหลวงพระบาง ตลาดที่นี่เปิดตั้งแต่ตี5ถึง10โมงเช้า เป็นตลาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยของพื้นเมืองแปลกๆที่ชาวบ้านมานั่งขายกันเอง เช่น ของมาจากป่า สมุนไพรหายาก ขนมโบราณ ผักที่ชาวบ้านปลูกเอง ถ้าใครชอบอาหารแบบท้องถิ่นต้องไม่พลาดของฝากขึ้นชื่อ สาหร่ายแผ่นปรุงรส เห็ดกระด้าง ขนมขี้หนู แจ่วบอง ผ้าซิ่น ผ้าพาดไหล่ จากนั้นทานอาหารเช้าที่โรงแรม(มื้อที่6)จากนั้นกลับไปทานอาหารเช้าที่โรงแรม(มื้อที่6) ทำธุรส่วนตัวตามอัธยาศัย เตรียมตัวไปเมืองหนองเขียว
 
วันที่สาม  เที่ยวหนองเขียว เมืองงอยใหม่ สัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์กับวิถีชนบท
    
เช้า เก็บสัมภาระเพื่อนั่งรถตู้เดินทางออกจากเมืองหลวงพระบาง เพื่อไปเที่ยวเมืองหนองเขียวหรือเมืองงอยใหม่กันต่อ เส้นทางนี้เราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ3-4ชั่วโมง แวะชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางที่เขื่อนน้ำอู เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า ที่จะมีจุดชมวิวสวยงามตลอดเส้นทาง
       
เที่ยง ทานอาหารเที่ยงที่ร้านเอเชีย(มื้อที่7) ร้านอาหารที่ตบแต่งอย่างดี บรรยากาศกว้างขวางเพื่อรองรับนักเดินทาง
      
บ่าย เดินทางต่อบนถนนที่เรียบแม่น้ำอู บางครั้งก็ผ่านหมู่บ้าน ผ่านอำเภอเล็กๆ ชอบตรงไหนจอดแวะได้เลยครับ ถนนที่นี่บรรยากาศสองข้างทางยังเป็นธรรมชาติ เหมาะแก่การลงไปถ่ายรูป
       
หนองเขียวกับเมืองงอยเป็นเมืองคู่แฝด สมัยก่อนเมืองอยเป็นเมืองเก่าแก่ริมน้ำอูตอนกลาง ต่อมาได้มีการตัดถนนมาถึงหนองเขียวใกล้กับที่ตั้งของสะพาน บริเวณที่ถนนตัดใหม่เลยกลายเป็นชุมชน ที่มีชาวบ้านจากเมืองงอย ย้ายมาตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้านใหม่
    
บ่าย  ถึงเมืองหนองเขียว เช็คอินที่โรงแรมผาช้าง รีสอร์ทหรือเทียบเท่า ทำธุระส่วนตัวเมื่อถึงเวลานัดหมาย นำท่านเดินเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตของชาวลาวตามชนบท ในหมู่บ้านหนองเขียวหรือเมืองงอยใหม่
       
พอแดดร่มลมตกแล้วนำท่านไปที่ริมแม่น้ำอู ออกกำลังกายพายเรือคายัคบริเวณใต้สะพานหนองเขียวหรือท่านไหนนั่งเรือหางยาวเพื่อสำรวจตามลำน้ำ ก็ตามทำได้อัธยาศัยครับ(กิจกรรมพิเศษไม่อยู่ในแพ็คเกจ)
       
เย็น นำท่านไปออกกำลังขากันต่อ ขึ้นไปเที่ยวจุดชมวิวผาชมนาง เนินเขาเล็กๆ ข้างบนนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมากๆ จนใครที่ได้มาหนองเขียวจะต้องไม่พลาดที่จะขึ้นมาเที่ยวชม นอกจากนี้เอกชนผู้ดูแลสถานที่ ยังมีบริการเครื่องดื่ม อาหาร หมูจุ่ม หมูกระทะ พร้อมจุดกางเต้นท์สำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วยครับ
       
แสงแดดอ่อนๆลมเย็นๆทานอาหารมื้อพิเศษ(มื้อที่8)ร่วมกันล่องเรือชมสายน้ำ พร้อมชิมเมนูเด็ดของที่นี่ คือ ปลาแม่น้ำที่จะนำมาทำหลากหลายเมนูทั้งทอด ลวกจิ้มและต้มยำ นอกจากนี้เมนูผักที่นี่ยังสดมากๆ
         
อิ่มอร่อยกันแล้ว กลับเข้าพักผ่อนที่โรงแรม หรือท่านไหนอยากท่องราตรีที่หนองเขียวก็จะมีร้านอาหารและบาร์เล็กๆ สำหรับบริการนักท่องเที่ยวเปิดอยู่หลายแห่ง สามารถเดินเลือกนั่งได้ตามอัธยาศัยครับ
 
วันที่สี่  สูดอากาศให้เต็มปอด เสน่ห์ที่เรียบง่ายของเมืองงอย-หนองเขียว
    
เช้า  อรุณสวัสดิ์รับวันใหม่กับสายหมอกและอากาศที่บริสุทธิ์ เดินเล่นตามอัธยาศัยในตอนเช้า ชมความงามของแม่น้ำอู ไปเดินชมตลาดบ้านหนองเขียว ตลาดท้องถิ่นของที่นี่เต็มไปด้วยผักสดๆ อาหารป่า สัตว์แปลกๆ สมุนไพรหายากและของใช้ที่เมื่อเห็นแล้วต้องถามแม่ค้าให้หายสงสัยว่ามันคืออะไร ท่านไหนจะซื้ออาหารท้องถิ่นไปลองชิมก็สามารถซื้อได้ตามชอบเลยครับ เพราะเราจะกลับไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันต่อ(มื้อที่9)
       
เก็บสัมภาระนำท่านขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับหลวงพระบาง ระหว่างทางชมทัศนีย์ภาพของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ของเมืองลาวภาคเหนือที่ยังอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ในสมัยก่อนการจะมาเมืองงอยหนองเขียวนี้จะต้องนั่งเรือจากปากน้ำอูล่องขึ้นมาเท่านั้น ปัจจุบันมีถนนตัดผ่านทำให้ทำให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสเมืองตามลำน้ำอูง่ายขึ้น
เที่ยง ทานอาหารเที่ยงอร่อยๆ ที่ร้านผามไซ ในบรรยากาศริมแม่น้ำคาน(มื้อที่10) จากนั้นพาท่านไปนั่งเล่น จิบกาแฟและชิมเบเกอร์รี่ที่ร้านซูริก ร้านนี้นอกจากบรรยากาศจะน่านั่งแล้ว ขนมยังสดใหม่หอมอร่อยมากครับ
      
บ่าย นำคณะเดินทางไปที่สถานีรถไฟหลวงพระบาง นั่งรถไฟชมวิวผ่านเมืองกาสี เมืองวังเวียง บริเวณนี้คือเส้นทางที่สวยที่สุดของประเทศลาวตอนเหนือ เวลาเดินทางทั้งสิ้นประมาณ2ชั่วโมง ก่อนจะถึงนครหลวงเวียงจัน

บ่าย เดินทางถึงนครหลวงเวียงจัน เปลี่ยนพาหนะจากรถไฟเป็นรถตู้ ถ้ามีเวลาเพียงพอนำท่านเที่ยวต่อในสถานที่สำคัญของนครหลวงเวียงจันตามเวลาที่เหมาะสม เช่น หอพระแก้ว สวนพระ เวียงจันเซนต์เตอร์
      
หอพระแก้วถูกสร้างขึ้นตามรับสั่งของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช หลังย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาที่เวียงจัน เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ที่ได้อัญเชิญมาจากนครเชียงใหม่ ต่อมาพระแก้วมรกตได้ประดิษฐานที่นี่เป็นเวลากว่า 200 ปี จนกระทั่งกองทัพสยามเข้ามา เจ้าพระยาจักรีซึ่งต่อมาคือรัชกาลที่1แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้อัญเชิญย้ายพระแก้วมรกตจากนครหลวงเวียงจันไปไว้ที่กรุงธนบุรี(โปรแกรมเสริมเมื่อมีเวลาในการท่องเที่ยว)
     
จากนั้นนำท่านข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่จังหวัดหนองคาย ทานอาหารว่างในรถเพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบินนานาชาติอุดรธานี นั่งเครื่องกลับมายังสนามบินดอนเมืองด้วยสายการบินนกแอร์ กลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิ์ภาพพร้อมกับภาพความประทับใจ

ราคาเพียง 9,900.00 -

โปรแกรมท่องเที่ยวที่คุณอาจสนใจ

วังเวียง หลวงพระบางเต็มรูปแบบ
พัก4ดาว2คืนที่หลวงพระบาง
สุดคุ้ม จัดเต็มเรื่องอาหาร 
เที่ยวครบทุกรสชาติ ในเมืองมรดกโลก

ราคาเพียง 9,900.00 -

เมืองเฟือง วังเวียง หลวงพระบาง 4วัน3คืน
พัก4ดาวที่หลวงพระบาง ย้อนอดีตตักบาตรริมน้ำ
พิเศษเที่ยวเมืองเฟืองแสนโรแมนติก

ราคาเพียง 9,500.00 -

เวียงจันทน์-วังเวียง-หลวงพระบาง3วัน2คืน
ที่พักหรู4ดาวที่หลวงพระบาง 
อาหารจัดเต็ม กิจกรรมพิเศษมากมาย

ราคาเพียง 7,900.00 -

เวียงจัน หลวงพระบาง3วัน2คืน
เที่ยวหลวงพระบางสุดคุ้ม
จัดเต็มเรื่องอาหาร
เที่ยวครบทุกรสชาติ ในเมืองมรดกโลก

ราคาเพียง 0.00 -