วันที่หนึ่ง กรุงเทพ-อุดรธานี-นครหลวงเวียงจัน-เมืองเฟือง
เช้า คณะพร้อมกันที่อาคารผู้โดยสารสนามบินดอนเมืองก่อนเวลาบิน1ชั่วโมง พบกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอินและโหลดกระเป๋า เมื่อได้เวลาเข้าสู่เกท เตรียมเดินทางบินสู่จังหวัดอุดรธานี ใช้ระยะเวลาประมาณ60นาที
ถึงสนามบินอุดรธานี ทีมงานสตาฟของบริษัทรอต้อนรับที่ประตูทางออก นำท่านำไปยังรถตู้แจกอาหารว่างบนรถตู้ แล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่จังหวัดหนองคาย จากนั้นนำท่านตรวจเช็คเอกสารทำการข้ามด่านสะพานมิตรภาพไทยลาว เมื่อข้ามแม่น้ำโขงและผ่านการตรวจเอกสารเข้าประเทศลาวเรียบร้อยแล้ว พาท่านเดินทางต่อเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์
เช็คอินใจกลางเมือง ชมความงามของประตูชัย สัญลักษณ์ของนครหลวงเวียงจัน สัมผัสความงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะลาวกับฝรั่งเศส ท่านสามารถหามุมถ่ายรูปได้ทั้งทางด้านหน้า ทางด้านภายในซุ้มประตู นอกจากนี้ท่านยังสามารถขึ้นไปชั้นบนของประตูเพื่อชมวิวและเก็บภาพมุมสูงได้ด้วยครับ
เที่ยง ทานอาหารที่ร้านเวียงแหนมเนือง(มื้อที่1) ร้านอาหารท้องถิ่นยอดนิยมในมื้อกลางวันของคนเวียงจัน เมนูจุ่มปลาจุ่มแม่น้ำโขง จุ่มหมูน้ำมะพร้าว แหนมเนือง กะยอทอดรสชาติต้นตำหรับกับผักปลอดสารพิษ
เข้าสักการะพระธาตุหลวงที่มีตำนานว่า หลังจากสร้างพระธาตุพนมพระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ ผู้ครองเวียงจันได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองราชคฤห์ไว้ นอกจากนี้ด้านหน้าของพระธาตุหลวง ก็ยังมีบ่อพญานาค สถานที่ที่เชื่อว่าเป็นประตูสู่เมืองบาดาล ที่ว่ากันว่ามีทั้งหมด 3 แห่ง คือ ที่คำชะโนด ที่พระธาตุดำและที่พระธาตุหลวง
บ่าย นั่งรถตู้จากเวียงจันโดยเส้นทางด่วนลาว-จีนเข้าสู่เมืองสามหมื่นเมืองเฟือง ตลอดสองข้างทางท่านจะได้ช มทัศนียภาพของป่าไม้ หมู่บ้านท้องถิ่นและภูเขาหินปูนที่สวยงาม เมื่อถึงบ้านหินเหิบรถนำท่านออกจากทางด่วนลาวจีน มุ่งหน้าเข้าเมืองเฟือง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เป็นธรรมชาติแบบเดิมๆที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน
พอใกล้ถึงเมืองเฟือง นำท่านเช็คอินระหว่างทางที่อ่างน้ำตงวิว รีสอร์ท ที่พักติดอ่างเก็บน้ำที่มีร้านกาแฟบรรยากาศดีๆให้ท่านได้จิบกาแฟ มีมุมของสะพานไม้ไผ่กลางน้ำให้ได้เดินเล่นเก็บภาพสวยๆกันครับ
เดินทางต่อเข้าสู่บ้านท่า ชมภาพสวยๆของผาท่อหน่อคำภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมืองเฟือง จากนนั้นพาท่านแวะเดินเล่นที่ตลาดแลง ตลาดตอนเย็นใจกลางเมือง ชมวิถีชีวิตของคนเมืองเฟืองที่ยังมีรอยยิ้มแบบชาวชนบท เลือกซื้อสินค้าแปลกตา ของป่าตามฤดูกาลที่ชาวบ้านนำมาขาย เช่น มะแขว่นป่า ไกสาหร่ายน้ำจืด ปลาธรรมชาติจากแม่น้ำ ผักพื้นบ้าน ผลไม้ท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมืองและขนมแบบง่ายๆแต่หายากที่เมืองไทยครับ
วันที่หนึ่ง เที่ยวเมืองเฟือง ใกล้ชิดธรรมชาติของแม่น้ำหริก พักริมแม่น้ำ
เย็น จากนั้นเข้าพักที่ริมแม่น้ำหริก
ท่านสามารถเลือกที่พักได้ทั้งแบบแพริมแม่น้ำและแบบเฮือนพักบนฝั่ง ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของที่นี่ยังคงเน้นรักษาสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวกเลยยังมีไม่มาก เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติแท้ๆ ท่านสามารถทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ เช่น นั่งห่วงยางเล่นน้ำ ล่องเรือหางยาว ล่องแพ พายเรือคายัค นุ่งกระโจมอกอาบน้ำ นั่งตกปลาหรือนั่งจิบการแฟชมธรรมชาติ
เย็น สังสรรค์กินช้าวเย็นแบบปิ๊กนิกหมูกระทะและอาหารพื้นบ้านที่ทางเราจัดเตรียมไว้(มื้อที่2)
หรือจะไปทานอาหารที่ร้านท้องถิ่นหรือท่านไหนอยากจะแสดงฝีมือทำอาหารเองก็เลือกได้ตามความชอบครับ เพราะที่พักมีอุปกรณ์ทำอาหาร เครื่องครัว เตาแก๊ส
ค่ำ จากนั้นเป็นช่วงเวลาส่วนตัวตามอัธยาศัย
ท่านไหนจะสังสรรค์ต่อ หรือนั่งฟังเพลงชิวๆหรือนอนดูดาวก็ตามสะดวกก่อนเข้าพักผ่อนดื่มด่ำกับธรรมชาติริมน้ำครับ
วันที่สอง เที่ยวเมืองเฟือง-วังเวียง ดินแดนแห่งขุนเขาและสายน้ำ ธรรมชาติแบบเดิมๆในลาว
เช้า รับอรุณของวันใหม่กับสายหมอกยามเช้า
สูดอากาศให้สดชื่นริมแม่น้ำหริก ร่วมกันตักบาตรริมน้ำกับพระสงฆ์ที่จะนั่งมาบนเรือให้ท่านได้ทำรับพรเพื่อเป็นสิริมงคล สำหรับอาหารเช้าของที่นี่เรามีให้ท่านเลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่อาหารเช้าแบบตะวันตก อาหารเช้าแบบพื้นบ้าน หรืออาหารเช้าแบบปิ๊คนิ๊กที่ท่านลงมือทำเองตามความชอบ(มื้อที่3) เพราะที่นี่จะมีเรือของแม่ค้าอาขายของสดของแห้ง น้ำพริก ข้าวเหนียว ไส้อั่ว แหนม ปลาทอดถึงแพของท่านครับ
เก็บสัมภาระเดินทางต่อ นำท่านเข้าเที่ยวชมวัดสินไชย วัดที่สวยที่สุดในแถบนี้ที่ดาราจากประเทศไทยหลายคนมาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน ที่นี่นอกจากจะมีตำนานเรื่องพ่อปู่ฤษีกับพญานาคแล้ว ยังเป็นสถานปฎิษัติธรรมด้วยครับ
จากนั้นนำท่านวกกลับไปที่บ้านสามหมื่น ชมน้ำหรีกอีกมุมหนึ่งคือหาดผาตึง รีสอร์ทกลางธรรมชาติ ท่านสามารถเดินลุยเล่นน้ำใสๆได้ที่นี่พร้อมกับรับประทานอาหารเที่ยงแบบท้องถิ่นอร่อยๆครับ(มื้อที่5)
บ่าย จากนั้นนำท่านนั่งรถตู้VIPเดินทางต่อเข้าสู่เมืองวังเวียง
เมืองที่ชิคเอ้าท์ที่สุดในเอเชียงตะวันออกเฉียงใต้ชมทัศนียภาพของป่าไม้และภูเขาหินปูนที่สวยงาม นำท่านเช็คอินที่โรงแรมPm HotelหรือThavisouk RiverSide หรือM&M Hotelหรือเทียบเท่า ทำธุระส่วนตัวตามอัธยาศัย เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวให้พร้อมลุยกับกิจกรรมสนุกๆ
วันที่สอง เที่ยววังเวียง สนุกตื่นเต้นที่แม่น้ำซอง ชมสะพานสีฟ้าถ้ำนางฟ้า
บ่าย ไปที่สะพานสีฟ้าที่เที่ยวแห่งใหม่
ที่นี่มีกิจกรรมทั้งที่เล่นน้ำแบบธรรมชาติ มีมุมสวยๆให้ถ่ายภาพ มีถ้ำนางฟ้าถ้ำหินปูนที่สวยงามแถมข้างในยังอากาศเย็นสบาย มีล่องเรือหางยาวชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำซอง มีพายเรือคายัค มีนั่งห่วงยางลอดถ้ำนอน มีซิปไลน์โหนสลิง(กิจการ2อย่างหลังเป็นกิจกรรมพิเศษ ไม่อยู่ในค่าใช้จ่ายแพ็คเกจทัวร์)
เย็น เที่ยวต่อข้ามแม่น้ำซองไปที่บลูลากูนสองสระน้ำใสสีเขียวอมฟ้าติดเขาหินปูน
จุดเช็คอินยอดฮิตที่ทุกคนต้องมาชมมาเก็บภาพกัน เมื่อสมควรแก่เวลาแล้ว นำท่านไปล่องเรือรับลมเย็นๆ ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำซองยามใกล้ตะวันจะลับขอบฟ้า ท่านจะได้ชมบรรยากาศที่มีโรงแรมริมน้ำ มีแพร้านอาหาร มีสวนส้มของชาวบ้าน เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ต้องได้มาชมด้วยตาตัวเองครับ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ดาดฟ้าโรงแรมพิมเมืองหรือร้านพูอ่างคำ
ร้านอาหารชื่อดังบรรยากาศดีของเมืองวังเวียง(มื้อที่6)จากนั้นเดินเล่นถนนคนเดิน ลองชิมขนมครก ที่มีความหอมของมะพร้าวอ่อนสดๆหรือจะลองชิมร้านโรตีพีนัทบัตเตอร์ก็มีหน้าท๊อปปิ้งมากมาย ส่วนท่านที่ชอบแฮนเมทก็จะมีร้านขายกระเป๋าและเสื้อผ้าเก๋ๆในราคาที่ไม่แพง จากนั้นนำท่านกลับพักผ่อน สำหรับท่านที่จะตะลุยราตรี มีร้านแนะนำ เช่น ร้านคาเฟ่ริมน้ำซอง ร้านฟังเพลงเบาๆ หรือจะเป็นผับบาร์สนุกๆยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวลาว เกาหลี ญี่ปุ่นและฝรั่ง เช่น ซากุระบาร์
วันที่สาม นั่งรถไฟลาวเที่ยวหลวงพระบางเมืองมรดกโลก
เช้า อรุณสวัสดิ์รับวันใหม่ ชมธรรมชาติยามเช้าที่มีภูเขากินปูนอยู่ล้อมรอบ จากนั้นอาหารเช้าที่โรงแรม(มื้อที่7)
เก็บสัมภาระนำท่านเดินทางไปยังสถานีรถไฟวังเวียง สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับรถไฟสายแรกที่เชื่อมจีนกับอาเซี่ยน มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองมรดกโลก ท่านจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ผ่านอุโมงค์ข้ามแม่น้ำ ผ่านหมู่บ้านชมทุ่งนาป่าเขาที่สวยงามได้อย่างเต็มอิ่ม ถ่ายรูปเก็บความประทับใจได้ตลอดระยะเวลาประมาณ60นาที
เมื่อถึงหลวงพระบางนำท่านไปเที่ยวต่อที่น้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่สวยในหลวงพระบาง น้ำของที่นี่ใสแจ๋วสีเขียวมรกต มีป่าไม้ร่มรื่นปกคลุม จุดชมวิวต่างๆ มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ตำนานของน้ำตกเล่าว่า มีเทวดาผู้มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ได้ใช้เขาของกวางขุดลงไปในพื้นดินจนน้ำผุดขึ้นมา เกิดเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ต่อมาได้มีกวางทองหนุ่มมากินน้ำ และเห็นเป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์ จึงเข้าไปอาศัยอยู่โพรงถ้ำบริเวณหน้าผาติด เมื่อชาวบ้านมาพบเห็นน้ำตกที่เกิดขึ้นใหม่และมีกวางทองมาอาศัย เลยเรียกบริเวณนี้ว่า กวางสี หมายถึง กวางหนุ่มที่เขาเพิ่งเริ่มงอก
เที่ยง ทานอาหารเที่ยงที่ตาดร่มไม้(มื้อที่8)
ร้านอาหารริมน้ำตก จากนั้นพาท่านไปนั่งเล่นจิบกาแฟที่สวนพูนสุขรีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดที่สวยงาม ชมวิวธรรมชาติที่มีสะพานไม้มีสวนดอกไม้ให้ท่านได้เดินหามุมถ่ายภาพ
บ่าย พาท่านออกนอกเมืองไปชมที่เที่ยวสุดพิเศษ
ตาดฮ้อยครัว สวนดอกไม้กลางป่าใหญ่ที่ท่านจะได้เลี้ยงอาหารช้าง เดินตามเส้นทางธรรมชาติชมป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ชมการแสดงรำพื้นบ้านย้อนยุคของท้องถิ่น เก็บภาพสวนดอกไม้สวยๆจุดเช็คอินเก๋ๆ
จากนั้นพาท่านเข้าเมืองหลวงพระบาง ชมอาคารบ้านเรือนเก่าๆของเมืองมรดกโลก ชอบจุดไหนบอกไกด์ให้จอดรถได้ครับ หรือถ้าหากมีท่านไหนสนใจอยากใส่ชุดพื้นเมืองเที่ยว ไกด์จะพาท่านแวะร้านผ้าซิ่น แล้วค่อยเข้าเช็คอินที่โรงแรม Maison Souvannaphoum HotelหรือโรงแรมTreasure Hotel Laos หรือเทียบเท่า
เมื่อพักผ่อนเปลี่ยนอริยบทและทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว พาท่านไปทานอาหารค่ำ พร้อมชมรำวงย้อนยุค ร่วมเต้นบาสโลปที่ร้านกอไผ่ (มื้อที่9) จากนั้นพาท่านไปเดินเที่ยวถนนคนเดิน ชมพร้อมช๊อปปิ้งที่ตลาดมืด
ตลาดมืดแบ่งง่ายๆเป็น3โซนครับ โซนที่หนึ่ง ถนนคนเดิน เริ่มต้นที่สี่แยกที่มีร้านกาแฟอเมซอน สิ้นสุดที่สามแยกหมู่บ้านเจ๊ก สินค้าที่มาขายก็เป็นจำพวกของฝากของที่ระลึกแบบแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ส่วนโซนที่สอง คือ ตลาดชนเผ่า ที่จะมีร้านอาหารสไตล์สตรีทฟู้ต เวทีการแสดงดนตรีและโต๊ะนั่งทานอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว และโซนที่สาม คือ ซอยอาหารพื้นเมืองที่เป็นตรอกเล็กๆ ตรงกันข้ามตลาดชนเผ่า ที่นี่มีอาหารพื้นเมืองราคาถูก ขายทั้งแบบใส่ถุงกลับบ้าน และสำหรับนั่งกิน เมื่อสมควรแก่เวลาแล้ว นำท่านกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม
วันที่สี่ เที่ยวให้ครบกับเมืองหลวงพระบาง
เช้า รับแสงของวันใหม่ นำท่านร่วมใส่บาตรกิจกรรมที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาที่นี่
การตักบาตรข้าวเหนียวในตอนเช้าที่หลวงพระบาง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยังคงสืบทอดต่อเนื่องกันมายาวนาน โดยการตักบาตรข้าวเหนียวนั้น ชาวบ้านจะฟังเสียงกลองจากทางวัด เป็นสัญญาณบอกเพื่อให้เตรียมตัวปูเสื่อรอริมทางเดิน ที่พระท่านจะบิณฑบาต สำหรับการแต่งกายผู้หญิงจะนุ่งผ้าซิ่น มีผ้าเบี่ยงหรือผ้าสไบพาดไหล่ ผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและมีผ้าพาดเช่นกัน
จากนั้นเดินเที่ยวตลาดเช้าหลวงพระบาง ตลาดที่นี่เปิดตั้งแต่ตี5ถึง10โมงเช้า เป็นตลาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยของพื้นเมืองแปลกๆที่ชาวบ้านมานั่งขายกันเอง เช่น ของมาจากป่า สมุนไพรหายาก ขนมโบราณ ผักที่ชาวบ้านปลูกเอง ถ้าใครชอบอาหารแบบท้องถิ่นต้องไม่พลาดของฝากขึ้นชื่อ สาหร่ายแผ่นปรุงรส เห็ดกระด้าง ขนมขี้หนู แจ่วบอง ผ้าซิ่น ผ้าพาดไหล่ จากนั้นทานอาหารเช้าที่โรงแรม(มื้อที่10)
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำธุรส่วนตัวกันเสร็จแล้ว พาท่านไปเที่ยวชมบ้านช่างค้อง หมู่บ้านหัตถกรรมของชาวลาวดั้งเดิม ที่มีผลิตภัณฑ์มากมาย ทั้งผลิตภัณฑ์จากไม้ ผ้าฝ้ายและผ้าไหมทอมือ งานหัตถกรรมของที่นี่เลื่องชื่อและแตกต่างจากที่อื่นในเรื่องดีไซด์ สินค้าของที่ระลึกต่างๆที่ขายในหลวงพระบางล้วนมาจากหมู่บ้านแห่งนี้ ท่านจะได้ชมการทอผ้า ชมการทำกระดาษสา รวมถึงการนำไปแปรรูปเป็นสิ่งของเครื่องใช้ ของประดับตกแต่งของฝากของที่ระลึก
วันที่สี่ เที่ยวหลวงพระบาง เก็บความทรงจำในเมืองมรดกโลก
เช้า จากนั้นพาท่านเข้าชมพระราชวังเจ้ามหาชีวิตแห่งอาณาจักรล้านช้าง
ชมเครื่องราชบรรณาการที่ชาวต่างต่างชาตินำมาถวายพระมหากษัตริย์ในสมัยก่อน ต่อด้วยเก็บตกตลาดเช้า ซื้อของฝากของที่ระลึกกลับเมืองไทย
จากนั้นนำท่านเข้าชมวัดเชียงทอง วัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง วัดแห่งนี้ในสมัยก่อนมีฐานะเป็นวัดประตูเมือง เพราะตั้งอยู่ใกล้ท่าเทียบเรือซึ่งเป็นที่ขึ้นลงเรือของขุนนาง เชื้อพระวงศ์ เจ้ามหาชีวิต รวมถึงชาวต่างชาติ ชมความงดงามของสิมหรืออุโบสถแห่งวัดเชียงทองที่ทั่วโลกยกย่องให้เป็นเพชรยอดมงกุฎแห่งล้านช้าง เอกลักษณ์ที่ภาคภูมิใจของชาวหลวงพระบาง พาท่านเข้าชมลายคำที่วิจิตรบรรจง แต่ละภาพเล่าเรื่องพุทธประวัติและตำนานโบราณของเมืองหลวงพระบาง
จากนั้นเดินไปด้านหลัง ชมโรงเก็บราชรถไม้แกะสลักปิดทองของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระมหากษัตริย์ของเมืองหลวงพระบางแห่งอาณาจักรล้านช้าง ที่ยังคงเหลือให้ชมเพียงแห่งเดียว
เที่ยง ทานอาหารเที่ยงอร่อยๆ ที่ร้านผามไซ ในบรรยากาศริมแม่น้ำคาน(มื้อที่11)
จากนั้นพาท่านไปนั่งเล่น จิบกาแฟและชิมเบเกอร์รี่ที่ร้านซูริก ร้านนี้นอกจากบรรยากาศจะน่านั่งแล้ว ขนมยังสดใหม่หอมอร่อยมากครับ
บ่าย นำคณะเดินทางไปที่สถานีรถไฟหลวงพระบาง นั่งรถไฟชมวิวผ่านเมืองกาสี เมืองวังเวียง บริเวณนี้คือเส้นทางที่สวยที่สุดของประเทศลาวตอนเหนือ เวลาเดินทางทั้งสิ้นประมาณ2ชั่วโมง ก่อนจะถึงนครหลวงเวียงจัน
อำลานครหลวงเวียงจัน เดินทางมาที่ด่านสะพานมิตรภาพลาว-ไทย แวะช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ดิวตี้ฟรี เลือกซื้อสินค้าที่มีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขนมขบเคี้ยว ช๊อกโกแล็ต ชา กาแฟและอีกมากมาย
จากนั้นนำท่านข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่จังหวัดหนองคาย ทานอาหารว่างในรถเพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบินนานาชาติอุดรธานี นั่งเครื่องกลับมายังสนามบินดอนเมืองกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิ์ภาพพร้อมกับภาพความประทับใจ
วังเวียง หลวงพระบางเต็มรูปแบบ
พัก4ดาว2คืนที่หลวงพระบาง
สุดคุ้ม จัดเต็มเรื่องอาหาร
เที่ยวครบทุกรสชาติ ในเมืองมรดกโลก
วังเวียง หลวงพระบาง หนองเขียว4วัน3คืน
พัก4ดาวที่หลวงพระบาง สุดคุ้มเที่ยว3เมือง
สัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของหนองเขียว
เวียงจันทน์-วังเวียง-หลวงพระบาง3วัน2คืน
ที่พักหรู4ดาวที่หลวงพระบาง
อาหารจัดเต็ม กิจกรรมพิเศษมากมาย
เวียงจัน หลวงพระบาง3วัน2คืน
เที่ยวหลวงพระบางสุดคุ้ม
จัดเต็มเรื่องอาหาร
เที่ยวครบทุกรสชาติ ในเมืองมรดกโลก
66 หมู่1 ถนนโชคชัย4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10320
Line ซื้อสินค้า : @bestseller456